!! ย้อนรอยประวัติศาสตร์ VR !!

รู้ไหมว่ากว่าที่จะมีเทคโนโลยี VR หรือ Virtual Reality ซึ่งเทคโนโลยีการจำลองภาพ 3 มิติที่ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นภาพ ได้ยินเสียงและรับรู้สิ่งต่าง ๆ เสมือนไปอยู่สถานที่นั้นผ่านทางประสาทสัมผัส การมองเห็น การได้ยินเสียง และการสัมผัสนั้น ผ่านนนนนนอะไรมามากมายขนาดไหน?!

ย้อนกลับไปในปี 1957 ชาวอเมริกัน Morton Heilig และเพื่อนคู่หูของเขา ได้สร้างเครื่องฉายหนัง VR ที่มีชื่อว่า Sensorama (เซ็นซอรามา) ที่ทำให้ผู้ชมสัมผัสได้ถึงประสบการณ์การขี่มอเตอร์ไซค์บนถนน รู้สึกถึงลมที่ปะทะหน้า และการสั่นสะเทือนของเบาะนั่งของมอเตอร์ไซค์ด้วยมุมมอง 3 มิติ

ต่อมาในปี 1968 นักวิทยาศาสตร์ Ivan Sutherland เล็งเห็นว่าเครื่องจำลองข้างต้นมีความยุ่งยากในการใช้งานเพราะมีขนาดที่ใหญ่โตเกินไป พกพาไปไหนมาไหนลำบาก จึงได้คิดค้นเครื่องมือที่สามารถสวมเป็นแว่นตาได้ เพื่อที่จะได้พกพาไปไหนสะดวก

ถัดมาในปี 2012 เด็กชายนามว่า Palmer Luckey มีความหลงไหลในคอมพิวเตอร์และเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ อย่างมาก เขาเริ่มสนใจเทคโนโลยี VR และเริ่มสะสมแว่น VR ทำให้ผ่านมาสักระยะหนึ่งเขาก็ได้สังเกตเห็นจุดบกพร่องของแว่น VR ว่าภาพที่ได้ออกมายังมีความสมจริงน้อยเกินไป ทั้งเรื่องคุณภาพของภาพที่เห็น มุมมองการเห็นภาพที่ไม่เหมือนกับที่เราเห็นจริง ๆ เขาจึงเริ่มดัดแปลงแว่นและทำแว่น VR ขึ้นมาใหม่ในแบบของเขาเอง จนสุดท้ายเขาก็ทำสำเร็จและก่อตั้งบริษัท Oculus ด้วยอายุเพียง 21ปีเท่านั้น

ในเดือนเมษายนปี 2014 Facebook ได้ซื้อกิจการของ Oculus ด้วยจำนวณเงินเกือบ 2 ล้านดอลลาร์เพราะเฟซบุ๊คเล็งเห็นว่าเทคโนโลยีนี้กำลังมาแรง และเป็นที่สนใจของคนจำนวนมาก และหวังจะพัฒนาเทคโนโลยีนี้ต่อ ในขณะเดียวกัน Sony ทดลองจับคู่แว่น VR รวมเข้ากับเครื่องเล่นเกม Playstation ทำให้ผู้เล่นได้ความรู้สึกใหม่ ๆ ในการเล่นเกม เสมือนเข้าไปอยู่ในโลกแห่งเกมจริง ๆ ทำให้ได้รับความสนใจจากผู้คนมากมาย ถัดมาในวงการภาพยนตร์มีหนังและค่ายหนังเริ่มให้ความสำคัญกันมากขึ้นจนทำให้เกิน IMAX ขึ้นในปัจจุบัน

และเมื่อต้นปี 2024 ที่ผ่านมาทางบริษัท Apple ก็ได้ปล่อยตัว Apple Visionpro ที่ให้ประสบการณ์ใหม่ในการใช้ชีวิตประจำตัว โดยการใช้แว่น VR ในชีวิตประจำวันไปเลย แน่นอนว่าได้รับความสนใจจากผู้คนเป็นอย่างมาก เช่นการที่เราสามารถสแกน QR code ในการจ่ายสินค้าทางแว่น VR ได้ โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา หรือการที่เราสามารถประชุมคุยงานพร้อมกับดูหนังหรือดูการ์ตูนไปด้วยได้ ข้อเสียของการสวมแว่น VR เป็นระยะเวลานาน ๆ แน่นอนว่าต้องมีมาควมคู่กันอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ว่าทาง Apple ก็ได้รับฟังทางผู้ใช้งานและนำไปพัฒนาต่อ 

ทำให้เห็นว่านี่คือก้าวแรกที่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอลเต็มตัวแล้ว เช่นฉากของ IRON MAN คุณโทนี่ สตาร์ค ที่ใช้นิ้วมือสัมผัสกับหน้าจอโฮโลแกรมซึ่งถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 10 20 ปีที่แล้ว ก็คงไม่มีใครคิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริง มันดูล้ำสมัยเกินไป แต่ตอนนี้นี้มันได้เกิดขึ้นแล้ว! 

CR.-  https://www.ais.th/thestartup/blog-vr-history.html